Home Business Marketing Automation คืออะไร สำคัญแค่ไหนกับธุรกิจ

Marketing Automation คืออะไร สำคัญแค่ไหนกับธุรกิจ

1038
0
Marketing Automation

Marketing Automation หรือการตลาดอัตโนมัติคือการใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เพื่ออัตโนมัติกิจกรรมทางการตลาดและการสื่อสารกับลูกค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ, ประหยัดเวลา, และลดข้อผิดพลาดในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด การตลาดอัตโนมัตินี้ช่วยในการจัดการและส่งมอบคอนเทนต์ที่เหมาะสมไปยังเป้าหมายที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทำให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตัวอย่างของกิจกรรมที่อาจถูกอัตโนมัติได้รวมถึงการตลาดผ่านอีเมล, การโพสต์ในโซเชียลมีเดีย, และการทำแคมเปญโฆษณา. ในบทความนี้เราจะอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง เกี่ยวกับของการตลาดในรูปแบบนี้ให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้นครับ

เครื่องมือในการทำการตลาดอัตโนมัติ

HubSpot:

Marketing Automation

เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติที่มีชื่อเสียง มีความสามารถในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM), การตลาดผ่านอีเมล, การสร้างหน้า Landing Page, และการวิเคราะห์ข้อมูล.

Marketo:

Marketing Automation

แพลตฟอร์มนี้เน้นไปที่การตลาด B2B และมีคุณสมบัติสำหรับการนำเสนอแคมเปญ, การวิเคราะห์ผลลัพธ์, และการปรับแต่งเนื้อหาอัตโนมัติ.

Salesforce Pardot:

Marketing Automation

มุ่งเน้นไปที่การตลาด B2B และการบูรณาการกับ Salesforce CRM. มีคุณสมบัติที่ช่วยในการนำเสนอและติดตามแคมเปญการตลาด.

Mailchimp:

Marketing Automation

นิยมใช้สำหรับการตลาดผ่านอีเมล, มีคุณสมบัติสำหรับการสร้างแคมเปญอีเมล, การทำออโตเมชัน, และการวิเคราะห์ผลลัพธ์.

ActiveCampaign:

เครื่องมือนี้มีความสามารถในการตลาดผ่านอีเมล, การสร้างออโตเมชัน, และการจัดการลูกค้าสัมพันธ์.

Adobe Marketo Engage:

เป็นส่วนหนึ่งของ Adobe Experience Cloud และมีคุณสมบัติสำหรับการจัดการแคมเปญ, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการปรับแต่งเนื้อหา.

Infusionsoft by Keap:

มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง มีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับการตลาดผ่านอีเมล, การจัดการลูกค้าสัมพันธ์, และการสร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติ.

Oracle Eloqua:

เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นในการตลาด B2B มีความสามารถในการจัดการแคมเปญ, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการปรับแต่งเนื้อหา.

เครื่องมือเหล่านี้แต่ละตัวมีความสามารถที่แตกต่างกันและอาจเหมาะกับประเภทธุรกิจและขนาดของธุรกิจที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องมือจึงควรพิจารณาจากความต้องการและเป้าหมายทางการตลาดของแต่ละองค์กร.

ตัวอย่างการทำ”Marketing Automation ของแบรนด์ต่างๆ

การตลาดผ่านอีเมลแบบเฉพาะเจาะจง: หลายแบรนด์ใช้ การตลาดอัตโนมัติ เพื่อส่งอีเมลที่ปรับแต่งได้แก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่น Amazon ที่ส่งอีเมลแนะนำผลิตภัณฑ์ตามประวัติการเรียกดูและการซื้อของแต่ละบุคคล.

การแจ้งเตือนเมื่อมีสินค้ากลับเข้าสต็อก: ร้านค้าออนไลน์บางแห่งใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อสินค้าที่พวกเขาสนใจกลับมาเข้าสต็อกอีกครั้ง.

การนำทางลูกค้าผ่านกระบวนการซื้อ: แบรนด์เช่น Netflix ใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้เพื่อแนะนำซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่ลูกค้าอาจสนใจ.

การเพิ่มยอดขายผ่านการแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเช่น Lazada และ Shopee ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องหรืออาจจะสนใจในหน้าผลิตภัณฑ์.

การสร้างแคมเปญโซเชียลมีเดียอัตโนมัติ: แบรนด์หลายแห่งใช้เครื่องมืออัตโนมัติเพื่อกำหนดเวลาและเผยแพร่โพสต์โซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ.

การใช้แชทบอทเพื่อการบริการลูกค้า: บริษัทหลายแห่งใช้แชทบอทเพื่อตอบคำถามทั่วไปและช่วยเหลือลูกค้าอย่างรวดเร็ว.

การปรับแต่งเว็บไซต์: เว็บไซต์บางแห่งปรับเปลี่ยนเนื้อหาและข้อเสนอตามพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม เช่น การแสดงข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่เยี่ยมชมเป็นครั้งแรก.

การวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญ: แบรนด์ใช้ข้อมูลจาก การตลาดอัตโนมัติ เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับปรุงแคมเปญการตลาดในอนาคต.

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงถึงวิธีที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ประโยชน์จาก การตลาดอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด, สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า, และสร้างยอดขาย.

ข้อดี – ข้อเสีย ของการทำ Marketing Automation

การทำ การตลาดอัตโนมัติ มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่สำคัญ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:

ข้อดี

  1. ประหยัดเวลา: การอัตโนมัติกิจกรรมที่ซ้ำซากจำเจทำให้ทีมการตลาดมีเวลาเพิ่มขึ้นเพื่อทำงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์มากขึ้น.
  2. การเพิ่มความสามารถในการวัดผล: การใช้เครื่องมืออัตโนมัติช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้สามารถวัดผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดได้ดีขึ้น.
  3. เพิ่มประสิทธิภาพการตลาด: การใช้ข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อสร้างข้อเสนอและเนื้อหาที่เหมาะสมทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
  4. การส่งข้อความที่เป็นส่วนตัว: การปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและเพิ่มโอกาสในการตอบสนอง.
  5. การบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ที่ดีขึ้น: ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าและการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีระบบ.

ข้อ

  1. ต้นทุนในการตั้งต้น: การติดตั้งและการดำเนินการระบบอาจต้องใช้การลงทุนทั้งเวลาและเงินทุน.
  2. ความซับซ้อนในการใช้งาน: บางระบบอาจมีความซับซ้อนและต้องการทักษะเฉพาะทางเพื่อใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  3. ความเสี่ยงของการสื่อสารที่ไม่เป็นมนุษย์: หากใช้งานอัตโนมัติมากเกินไปอาจทำให้การสื่อสารขาดความเป็นส่วนตัวและมนุษยธรรม.
  4. การพึ่งพาเทคโนโลยี: การเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคหรือการขาดความสามารถในการปรับใช้ระบบอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการตลาด.
  5. ความจำเป็นในการอัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ: ข้อมูลที่ล้าสมัยอาจทำให้ผลลัพธ์ของการตลาดอัตโนมัติไม่มีประสิทธิภาพ.

การใช้ MarketingAutomation หรือ การตลาดอัตโนมัติ จึงต้องทำด้วยความรอบคอบ โดยการพิจารณาถึงทั้งข้อดีและข้อเสียเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ.

สุดท้ายแล้ว การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการกิจกรรมทางการตลาดโดยอัตโนมัตินี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ แต่ยังช่วยประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการทำการตลาดได้อย่างมากอีกด้วยครับ

ติดตามเราได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/robertiscream

instagram : https://instagram.com/robertiscream

อ่าน Content อื่น ได้ใน https://robert-i-scream.com/